รู้จัก โพลีคาร์บอเนต
นก |
ารู้จักกับโพลีคาร์บอเนต ?
โพลีคาร์บอเนต คือผลิตภัณฑ์วิศวกรรมพลาสติกคุณภาพสูงที่มีต้นกำเนิดจากในยุโรปโดย DR. H SCHNELL แห่ง บริษัท ไบร์เออร์ ( BAYER ) ประเทศ เยอรมันนี และ MR. D.W. FOX แห่ง บริษัท เจนเนอรัล อิเลคทริค ( GE ) ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1953 ในเบื้องต้นได้นำไปใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องไฟฟ้า และ อิเลคทรอนิคก่อน โดยในเวลาต่อมานิยมนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ทดแทนแก้วได้ดี เนื่องจากมีคุณสมบัติเฉพาะตัว คือเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกได้ดีกว่า น้ำหนักเบากว่า และ มีความยืดหยุ่นดีกว่าทำให้สามารถขึ้นรูปได้หลายรูปแบบมากกว่า >>> คุณสมบัติพิเศษของแผ่นโพลีคาร์บอเนต *1. เคลือบสารกันแสง ยูวี *2. เคลือบสารป้องกันการเสื่อมสภาพที่เกิดจากแสงอาทิตย์ *3. มีความโปร่งแสง *4. มีความหลากหลายสีสันให้เลือก *5. น้ำหนักเบา *6. ติดตั้งง่าย *7. ในเวลาฝนตก เสียงของน้ำฝนที่ตกกระทบแผ่นโพลีคาร์บอเนตจะมีเสียงเบาไม่เป็นที่รบกวน >> ประเภทของแผ่นโพลีคาร์บอเนต 1.โพลีคาร์บอเนตแบบลูกฟูก (Twin wall polycarbonate) หรือแผ่นโพลีคาร์บอเนต ( PC Hollow Sheet ) เป็นแผ่นพลาสติคใส ที่สามารถใช้ตกแต่งได้ทั้งภายใน และ ภายนอกอาคาร ใช้แทนกระจก อาคิลิค ได้ดีไม่แตกง่าย หรือ ใช้ทำหลังคาที่จอดรถ กันสาด ก็มีความสวยงาม และที่สำคัญแสงผ่านได้ ( มากน้อยขึ้นอยู่กับสี และ แบบที่เลือกใช้ ) รวมทั้งยังสามารถกันแสง UV ได้อีกด้วย จึงทำให้สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างอเนกประสงค์ 2.โพลีคาร์บอเนตแบบแผ่นตัน (Solid Polycarbonate) เป็นแผ่นโพลีแบบตัน ที่มีคุณสมบัติในการดัดโค้งได้ดี ลดปัญหาเรื่องน้ำและเชื้อราที่เกิดจากการติดตั้งที่ผิดวิธี เหมาะสำรับงานโดมที่มีขนาดใหญ่ ตัวอย่างน้ำหนักแผ่นโพลีคาร์บอเนตในขนาดต่าง ๆ ที่มีขายในท้องตลาดแบบลูกฟูก(Hollow Sheet) หรือ (Twin wall) แผ่น ตรม. ขนาด 4 มม. x 1.22 เมตร x 2.44 เมตร 2.71 0.91 ขนาด 6 มม. x 1.22 เมตร x 2.44 เมตร 3.72 1.25 ขนาด 4 มม. x 2.10 เมตร x 6 เมตร 15.75 1.25 ขนาด 8 มม. x 2.10 เมตร x 6 เมตร 18.90 1.50 ขนาด 10 มม. x 2.10 เมตร x 6 เมตร 22.68 1.80 แบบแผ่นตัน(Solid Sheet) แผ่น ตรม. ลอน (Corrugate) 1 มม. x 0.82 เมตร x 6 เมตร 2.71 0.91 ตันใส (Solid) 1 มม. x 1.83 เมตร 3.72 2.40 ตันขรุขระ (Embossed) 1 มม. x 1.83 เมตร 15.75 3.10 ***ทำไมหลังคาโพลีฯ จึงได้รับความนิยมสูงในขณะนี้? - ความโปร่งแสงดีเยี่ยม - แสงสามารถส่องผ่านได้ถึง 25-88% ขึ้นกับสี และความหนาของแผ่น PC - น้ำหนักเบา - มีน้ำหนักเพียง 1/12 ของกระจกที่มีความหนาเท่ากัน - ทนต่อแรงกระแทก ยากต่อการแตกหัก - ทนต่อแรงกระแทก 80-200 เท่าของกระจก ( ทนกว่าอะครีลิค 15 เท่า ) - ยับยั้งการจับตัว - เมื่ออุณหภูมิภายนอกเป็น 0 ํC และอุณหภูมิภายในห้องเป็น 23 ํC แผ่น PCจะไม่จับตัว แม้ความชื้นสัมพัทธ์จะสูงก็ตาม - ป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต - แผ่น PC ถูกเคลือบด้วยสารดูดซับแสง UV แบบหนาแน่นสูง ซึ่งช่วยกรองรังสี UV และทำให้แผ่นไม่ซีดจางโดยง่าย - ทนความร้อนและเย็น - คุณสมบัติของแผ่น PC ยังคงเดิม ในช่วงอุณหภูมิที่กว้าง ตั้งแต่ -40 ํC ถึง 120 ํC- เป็นฉนวนป้องกันเสียง - มีคุณสมบัติเด่นในการเก็บเสียงได้เป็นอย่างดี - ติดตั้งง่าย รวดเร็ว - มีการคงรูป สามารถยืดหยุ่นและโค้งงอได้สูงถึง 175 เท่าของความหนา - มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันไฟดูดได้เป็นอย่างดี - สามารถนำไปใช้ในบริเวณที่มีความเปียกชื้นสูงได้ดี >> วิธีการติดตั้งแผ่นโพลีคาร์บอร์เนต 1. ทำโครงสร้างด้วยท่อแป็บกลมหรือเหลี่ยม เหล็ก หรือสแตนเลส แล้วแต่ชิ้นงาน ให้มีลักษณะโค้งตามรูป 2. แบ่งช่องแต่ละช่อง ควรห่างกันไม่เกิน 1 เมตร 3. การดัดโค้งของโครงสร้างให้ดูจากรูปที่ (1) ส่วนรูปที่ (2) เป็นการดัดโค้งที่ผิด 4. การติดตั้งหัวหนีบ (แคมปิ้งล่าง) หรือเฟรมบน-ล่าง กับโครงสร้าง ดังรูป โดยใช้สกรูเกลียวปล่อยยึดกับโครงสร้าง 5. ควรใส่ยาง EPDM รองกันน้ำเข้า (ยางรองใต้เฟรม EPDM) กับตัวหนีบทั้ง 2 ด้าน 6. การตัดแผ่นโพลีคาร์บอเนต สามารถตัดด้วยเครื่องตัดแบบ วงเดือนใบตัดกว้างประมาณ 4″ หรือใช้คัตเตอร์ด้ามใหญ่ ๆ ตัดตามขนาดที่ต้องการ 7. การวางแผ่นโพลีคาร์บอเนต ควรจะทำการติดตั้งให้แผ่น มีลักษณะโค้งแบบตามยาวของแผ่นดังรูปที่ (1) 8. ให้วางยี่ห้อ เดอะสตรอง (DSTRONG) ชี้ขึ้นฟ้า หรือ DSTRONG ที่ถูกพิมพ์ลงในเนื้อแผ่นโพลีคาร์บอเนตด้านข้างแผ่น จะต้องชี้ขึ้นฟ้าเท่านั้น เพราะเป็นด้านที่มีสารยูวีเคลือบอยู่ 9. การวางแผ่นโพลีคาร์บอเนตลงบนตัวหนีบ (แคมปิ้งล่าง) ควรจะมีระยะห่างอย่างน้อย 3-4 มม. เพื่อการขยายตัวของแผ่นโพลีคาร์บอเนต เมื่อเกิดจากความร้อนของแสงอาทิตย์ ดังรูป 10. การวางตัวหนีบบน (แคมปิ้งบน) ให้ทำเหมือนกับตัวหนีบล่าง (แคมปิ้งล่าง) และใช้ซิลิโคนไร้กรดซีนกับตัวหนีบทั้ง 2 ด้านเพื่อกันน้ำเข้า (ดังรูปที่ 1) หรือใช้ยาง EPDM รองกันน้ำเข้ากับตัวหนีบทั้ง 2 ด้าน (ดังรูปที่ 2) อย่าใช้ยาง04 หรือยางที่ใช้กับงานกระจก เพราะเมื่อยางโดนน้ำหรือน้ำฝนจะคายสารครอลีนออกมา ซึ่งจะกัดแผ่นโพลีคาร์บอเนต และจะแตกบริเวณใต้ตัวหนีบบน (แคมปิ้งบน) 11. การใช้ตัวท็อปแคมปิ้ง (ตัวตบหรือฝาครอบบน) ปิดลงบนแคมปิ้งบน (ตัวหนีบบน) เพื่อป้องกันน้ำเข้าตามรอยสกรู (ตรงรอยสกรูควรซีนซิลิโคนไร้กรดปิดตามรอยสกรูเพื่อไม่ให้น้ำเข้าตามรอยสกรู) และเพื่อความสวยงาม 12. ปลายแผ่นทั้งด้านบนและด้านล่างของแผ่น ควรใช้ซิลิโคนไร้กรดอัดที่ปลายแผ่นโพลีคาร์บอเนตให้เต็มเพื่อกันไม่ให้น้ำเข้า หลังจากนั้นใช้ฟอยด์ปิดรูปที่แผ่นโพลีคาร์บอเนตอีกครั้งหนึ่ง และใช้ซิลิโคนไร้กรดเป็นตัวยึดตัวยู หรือ ป ปลา หรือฉากอลูมิเนียมปิดทับเพื่อกันน้ำเข้าไปในแผ่นโพลีคาร์บอเนต (อย่าใช้ซิลิโคนกรดเพราะจะกัดแผ่นโพลีคาร์บอเนต ทำให้แผ่นแตก และกรอบ (ดังรูปตัวอย่าง) 13. เพื่อความสวยงามด้านปลายแค้มปิ้ง ควรปิดด้วยเอ็นแค็ป (ตัวปิดปลาย) ดังรูป ข้อควรระวัง 1. ห้ามใช้ เบนซิน, ทินเนอร์, น้ำมันสน หรือน้ำมันชนิดต่าง ๆ ทำความสะอาดแผ่นโพลีคาร์บอเนต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการดัดโค้งแผ่นโพลีคาร์บอเนต 2. หากต้องการทำความสะอาดแผ่นโพลีคาร์บอเนต เนื่องจากมีคราบน้ำมันหรือสีติดอยู่ที่ผิวของแผ่นโพลีคาร์บอเนตให้ใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์ทำความสะอาดก่อนที่คราบเหล่านั้นจะยึดติดแน่นกับผิวโพลีคาร์บอเนต 3. วางมีดและของมีคมให้ห่างจากแผ่นโพลีคาร์บอเนต เนื่องจากอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนแผ่นโพลีคาร์บอเนต 4. ควรใช้ซิลิโคนไร้กรดหรือยาง EPDM กับตัวหนีบบน (แคมปิ้งบน) 2 ด้านเพื่อกันน้ำเข้า อย่าใช้ยาง04 หรือยางที่ใช้กับงานกระจก เพราะเมื่อยางโดนน้ำหรือน้ำฝนจะคายสารครอลีนออกมา ซึ่จะกัดแผ่นโพลีคาร์บอเนตและจะแตกบริเวณใต้ตัวหนีบบน (แคมปิ้งบน) |
แสดงความคิดเห็น