http://clipshop.igetweb.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

 ข่าวสาร

 บทความ

 เว็บบอร์ด

 รูปภาพ

โพลีกั้นน้ำ

บ้านเลขที่กับฮวงจุ้ย

เรื่อง เล่า นิทาน คำกลอน แก้เหงา หนังสือ

ร้านวัสดุก่อสร้าง

ผู้รับเหมา

อู่่ซ๋อมรถ

เครื่องเสียง HI END

คอมพิวเตอร์

ร้านอาหาร

รถยนต์

ที่ดิน บ้าน ขาย เช่า

กล้องถ่ายภาพ

iGetWeb.com
AdsOne.com

ข่าวดี รถเก่าสามารถใช้น้ำมัน E85 ได้ครับ

ข่าวดี รถเก่าสามารถใช้น้ำมัน E85 ได้ครับ
IN CAR เครื่องปรับการจ่ายน้ำมัน ( E85 FLEX FUEL CONVERSION kits) สินค้าเพื่อประหยัดค่าเติมน้ำมัน
เงื่อนไขพิเศษสุด จากการทดสอบรถเก่า เติม e 85 แล้วไม่เกิดปัญหาอะไรในการใช้รถ (กว่า 6 เดือนในไทย)
IN CARสามารถ
ทำให้รถใช้น้ำมัน e85 (e20และแก๊สโซฮอล์ได้ทั้ง 95 และ91)ได้ โดยเครื่องยนต์ไม่มีปัญหา
ซื่งอุปกรณ์นี้ ราคาปกติ พร้อมการติดตั้ง ราคา 12000 บาท
โทรมาเพื่อรับข้อเสนอพิเศษ(6000 บาทจำนวนจำกัด) โทร08 64305886 นก ด่วนนะครับ
สำหรับ รถเก่า สามารถใช้น้ำมัน E85 ได้
สำหรับรถเก่า ที่ผลิต ตั้งแต่ ปี 90 ทั้งรถญี่ปุ่น และยุโรป ที่เป็น เครื่องยนต์ 4 สูบ รุ่นหัวฉีด สามารถเติมน้ำมัน
E85  ได้โดยเครื่องยนต์ ทำงานตามปกติ ยกเว้นพวกยางที่ไม่สามารถทน อีเทอนัล
รับประกันความพอใจ คินเงินทันที ถ้ารถไม่สามารถใช้ น้ำมันได้ 
IN CAR
ผลิต ด้วยอุปกรณ์คัดเกรด ทำหน้าที่ปรับการสั่งจ่ายน้ำมัน ให้เหมาะสมกับออคเทน ให้เครื่องยนต์เดินสะดวก
ด้วยซอฟแวร์ชั้นสุดยอด ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเลือกเติมน้ำมัน และช่วยลดมลภาวะอย่างดีกรณีเติมด้วย น้ำมัน e20 e85
แม้ กระทั่ง รถที่ติด แก๊ส LPG ก็สามารถใช้ได้ เพราะในอนาคตราคาแก๊ส lpg จะลอยตัว อาจทำให้ไม่สามารถใช้แก๊สนี้ได้
แม้ ngv ถ้ารัฐบาลไม่อุดหนุนก็จะราคาสูงเช่นกัน
ถีงรถติดแก๊สแล้วก็ยังคงต้องเติมน้ำมันอยู่ดี
IN CAR ทางออกในเรื่องพลังงาน 
หลักการทำงานของ conversion kit คือการปรับการสั่งจ่ายน้ำมันให้เหมาะสมกับสภาพเครื่องยนต์ให้ ตามค่าออคเทนของน้ำมัน
เป็นการเรียนรู้ ของ conversion kit กับ การสั่งงานของกล่อง ecu ไม่ใช้การหลอกไฟหรือหลอกกล่อง ecu ทำให้ไม่มีผลเสียต่อกล่อง ecu จีงทำให้มั่นใจในการใช้งาน

Tags :

4 ความคิดเห็น

  1. 4
    รูปประจำตัว
    mr pok 06/09/2008 16:55
    ในปี 2550 ทั่วโลกมีการผลิตเอทานอลเพื่อใช้เป็นพลังงานรวมประมาณ 136 ล้านลิตร/วัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณการใช้ยังนับว่าน้อยมาก คิดเป็นเพียงแค่ 1.2% ของปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินเท่านั้น โดยไทยนับเป็นประเทศผู้ผลิตเอทานอลมากเป็นอันดับ 6 ของโลก โดยในปี 2550 มีปริมาณการผลิตเฉลี่ยประมาณ 820,000 ลิตร/วัน



    ความนิยมใช้เอทานอลได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด เพื่อมาใช้ทดแทนสาร Methyl Tertiary Butyl Ether (MTBE) ซึ่งใช้ผสมในน้ำมันเบนซินเพื่อเพิ่มออกเทน เนื่องจากรัฐบาลหลายประเทศได้สั่งห้ามใช้สารนี้โดยเด็ดขาด เพราะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของน้ำใต้ดินและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงปรับเปลี่ยนมาเพิ่มออกเทนโดยใช้สาร ETBE ซึ่งผลิตจากเอทานอลเป็นการทดแทน



    นอกจากการนำเอทานอลมาผลิตเป็น ETBE เพื่อเพิ่มออกเทนแล้ว ปัจจุบันยังมีการนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ เป็นต้นว่า น้ำมัน E10 ซึ่งมีส่วนผสมประกอบด้วยน้ำมันเบนซิน 90% และเอทานอล 10% ซึ่งสามารถใช้แทนน้ำมันเบนซินได้ทันทีกรณีเป็นรถยนต์ระบบหัวฉีดรุ่นใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องปรับแต่งเครื่องยนต์แต่อย่างใด และได้กลายเป็นน้ำมันเบนซินมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก



    แม้การเติมเอทานอลเป็นสัดส่วนสูง จะส่งผลดีในการลดปัญหาโลกร้อน ยิ่งไปกว่านั้น ยังส่งผลให้ค่าออกเทนเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่มีการจำกัดส่วนผสมของเอทานอลไว้เพียง 10% เนื่องจากหากเพิ่มสัดส่วนเอทานอลในน้ำมันแก๊สโซฮอล์เกินกว่าระดับนี้แล้ว จะประสบปัญหาหลายประการ



    ประการแรก เอทานอลมีคุณสมบัติการกัดกร่อนสูง ยิ่งสัดส่วนของเอทานอลมากขึ้นจะยิ่งเพิ่มคุณสมบัติการกัดกร่อนให้เพิ่มมาก ขึ้นด้วย ดังนั้น หากน้ำมันแก๊สโซฮอล์มีสัดส่วนของเอทานอลสูงกว่า 10% แล้ว จะส่งผลกระทบต่อชิ้นส่วนรถยนต์ที่สัมผัสกับน้ำมันโดยตรง



    ประการที่สอง บริษัทน้ำมันจะต้องลงทุนจำนวนมากในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในส่วนถังบรรจุน้ำมันแบบใหม่ในสถานีบริการน้ำมัน ถังบรรทุกน้ำมันใหม่สำหรับรถบรรทุก ฯลฯ เพื่อให้สามารถทนทานต่อเอทานอลที่มีการสึกกร่อนได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังประสบปัญหาในด้านลอจิสติกส์ เนื่องจากว่าน้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอลเป็นสัดส่วนสูงจะกัดกร่อนท่อส่ง น้ำมัน ทำให้ไม่สามารถขนส่งตามท่อส่งน้ำมันตามสเปกที่ก่อสร้างไว้เดิมได้ ทำให้ต้องเปลี่ยนมาขนส่งโดยใช้รถบรรทุกซึ่งมีต้นทุนสูงกว่าการขนส่งทางท่อ อย่างมาก



    อย่างไรก็ตาม ขีดจำกัดทางเทคโนโลยีข้างต้นไม่ได้เป็นเรื่องเหลือบ่ากว่าแรงแต่อย่างใด โดยได้มีการวิจัยและพัฒนาผลิตรถยนต์ที่สามารถใช้เอทานอลเป็นสัดส่วนสูง เนื่องจากได้รับแรงกระตุ้นสำคัญจากรัฐบาลบราซิล ซึ่งได้ส่งเสริมการผลิตและการใช้เอทานอลภายในประเทศอย่างจริงจัง โดยจัดตั้งคณะกรรมการเอทานอลแห่งชาติขึ้นเมื่อปี 2518



    จากการที่บราซิลเป็นตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่และมียอดจำหน่ายรถยนต์แต่ละปีมากกว่า 2 ล้านคัน ได้กระตุ้นให้บริษัทรถยนต์ต้องเร่งวิจัยและพัฒนารถยนต์แบบใหม่ที่สามารถใช้ เชื้อเพลิงเอทานอลในอัตราสูงเพื่อจำหน่ายในบราซิล สำหรับการออกแบบให้ใช้เชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20 นั้น จะต้องปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ในขั้นตอนการประกอบภายในโรงงาน ให้มีความทนทานต่อการกัดกร่อนของเอทานอล โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่สัมผัสกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์โดยตรง



    หากจะออกแบบรถยนต์ให้ใช้เชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E85 ยิ่งมีความยุ่งยากมากขึ้นไปอีก เป็นต้นว่า ถังน้ำมันจะต้องทำด้วยเหล็กไร้สนิม ท่อน้ำมันเชื้อเพลิงจะต้องมีส่วนผสมของสารเทฟลอน รวมถึงปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงก็จะต้องปรับเปลี่ยนใหม่อีกด้วย



    อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญของรถยนต์ที่ใช้เอทานอลในระยะที่ผ่านมา คือ ไม่มีความยืดหยุ่นในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ขณะที่พฤติกรรมของผู้บริโภคต้องการความยืดหยุ่นในการใช้เชื้อเพลิง โดยต้องการรถยนต์ที่สามารถใช้ได้ทั้งกับน้ำมัน E0 E10 E25 E100 ฯลฯ โดยหากน้ำมันประเภทใดมีราคาประหยัดมากกว่า ก็อยากจะเติมน้ำมันประเภทนั้นๆ



    เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของผู้บริโภค บริษัทรถยนต์จึงวิจัยและพัฒนาเพื่อผลิตรถยนต์แบบใหม่ คือ Flexible - Fuel Vehicle (FFV) ซึ่งใช้เอทานอลเป็นสัดส่วนยืดหยุ่นได้ตามต้องการจนถึง 100% โดยติดตั้งเซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจน วัดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงวัดความเร็วของรถยนต์ จากนั้นจะส่งข้อมูลไปยังระบบคอมพิวเตอร์ของกล่อง ECU เพื่อคำนวณข้อมูล จะปรับแต่งการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงภายในเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติเพื่อให้ สามารถใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด



    อนึ่ง นอกจากบราซิลแล้ว ความนิยมรถยนต์แบบ FFV ได้แพร่ไปยังสหรัฐฯ โดยรถยนต์ FFV ที่จำหน่ายในเชิงพาณิชย์แบบแรกของสหรัฐฯ คือ รถยนต์เชฟโรเลตลามิน่าของค่าย GM ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายเมื่อปี 2535 ปัจจุบันยอดจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 6 ล้านคัน



    ความจริงแล้วรถยนต์แบบ FFV หากผลิตจำนวนมากในลักษณะ Mass Production แล้ว จะมีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 100 เหรียญสหรัฐ หรือ 3,300 บาทเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนการผลิตรถยนต์แบบธรรมดา



    ยิ่งไปกว่านั้น รถยนต์แบบ FFV ในสหรัฐฯ ได้จำหน่ายในราคาเท่ากันหรือใกล้เคียงมากกับรถยนต์แบบธรรมดาอีกด้วย แม้ว่าจะมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าก็ตาม เนื่องจากมีกฎหมายกำหนดให้บริษัทรถยนต์ต้องมียอดขายรถยนต์สิ้นเปลืองน้ำมัน โดยเฉลี่ย (Corporate Average Fuel Economy Standard - CAFE) ไม่เกินกว่าระดับที่กำหนด โดยหากรถยนต์บางแบบมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าระดับที่กำหนด ก็จะต้องผลิตรถยนต์อีกแบบที่ประหยัดน้ำมันน้อยกว่ากำหนด เพื่อให้อัตราเฉลี่ยของรถยนต์ทุกคันไม่เกินกำหนด



    เนื่องจากกฎหมายกำหนดว่ากรณีเป็นรถยนต์แบบ FFV แล้ว จะได้รับการพิจารณาปรับตัวเลขเพื่อใช้คำนวณเป็นกรณีพิเศษ ทำให้บริษัทรถยนต์ของสหรัฐฯ ซึ่งปกติผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่สิ้นเปลืองน้ำมันมาก จำเป็นต้องเน้นการผลิตรถยนต์ FFV เป็นการชดเชย เพื่อให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ยไม่เกินกว่าระดับที่กฎหมายกำหนด โดยยอมจำหน่ายรถยนต์ประเภทนี้ในราคาต่ำลง



    ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าของรถยนต์ในสหรัฐฯ จำนวนมากไม่ทราบด้วยซ้ำว่ารถยนต์ของตนเองเป็นแบบ FFV เนื่องจากบรรดาตัวแทนจำหน่ายไม่คิดว่า FFV เป็นจุดขาย ดังนั้น จึงไม่เล่าถึงคุณสมบัติพิเศษนี้ให้ผู้ซื้อได้รับทราบ



    จากการที่มีรถยนต์ FFV จำนวนมากขึ้น ทำให้เริ่มมีสถานีบริการน้ำมันประเภท E85 เกิดขึ้นในสหรัฐฯ โดยตัวเลขล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2551 มีสถานีบริการน้ำมัน E85 จำนวนรวมประมาณ 1,500 แห่ง ในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม สถานีบริการน้ำมันที่จำหน่ายน้ำมัน E85 ยังมีสัดส่วนค่อนข้างต่ำ กล่าวคือ ต่ำกว่า 1% ของจำนวนสถานีบริการน้ำมันทั้งหมดของสหรัฐฯ



    สำหรับอีกประเทศหนึ่งที่มีการใช้น้ำมัน E85 อย่างแพร่หลาย คือ สวีเดน เนื่องจากรัฐบาลมีวิสัยทัศน์ “Independence from Oil by 2020” หรือ “เป็นอิสรภาพจากน้ำมันภายในปี 2563” และได้สนับสนุนการใช้รถยนต์ FFV เป็นอย่างมาก ทั้งในส่วนเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนรถยนต์ในระดับต่ำ เก็บภาษีอากรน้ำมันเชื้อเพลิง E85 ในระดับต่ำ ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมใช้ถนนในกรุงสตอกโฮล์ม รวมถึงยกเว้นไม่ต้องเสียค่าจอดรถยนต์ใน 16 เมือง ฯลฯ



    นโยบายข้างต้นทำให้ปัจจุบันมียอดจำหน่ายรถยนต์ FFV เป็นสัดส่วนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะบริษัทซาบของค่าย GM ที่เน้นจำหน่ายรถยนต์แบบ FFV เป็นหลัก โดยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 80% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทแห่งนี้ทั้งหมด



    สำหรับกรณีของประเทศไทย ได้เริ่มใช้น้ำมัน E10 อย่างจริงจังนับตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา และปัจจุบันได้เริ่มใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์ได้เพิ่มสูง ขึ้นมาก ทำให้ประชาชนหันไปนิยมใช้น้ำมัน E10 เนื่องจากเป็นของดีราคาถูก



    เพื่อส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเอทานอลมากยิ่งขึ้น กระทรวงการคลังได้ออกประกาศลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ E20 ขึ้นไป เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2550 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ดังนี้



    - รถยนต์ขนาดไม่เกิน 2000 ซีซี และกำลังไม่เกิน 220 แรงม้า ปรับลดจาก 30% เหลือ 25%



    - รถยนต์ขนาด 2001 - 2500 ซีซี และกำลังไม่เกิน 220 แรงม้า ปรับลดจาก 35% เหลือ 30%



    - รถยนต์ขนาด 2501 - 3000 ซีซี และกำลังไม่เกิน 220 แรงม้า ปรับลดจาก 40% เหลือ 35%



    การปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตข้างต้นมีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถของคนไทยเป็น อย่างมาก เนื่องจากส่งผลทำให้ราคาลดลงอย่างต่ำ 30,000 บาท สำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก และ 80,000 บาท สำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่



    ล่าสุดเพื่อสนับสนุนการใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอลเพิ่มมากขึ้นไปอีก คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2551 เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้น้ำมัน E85 เป็นการเพิ่มเติม ดังนี้



    ประการแรก ยกเว้นอากรขาเข้าชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์ E85 ที่มีลักษณะเฉพาะเเละเป็นอุปกรณ์หลักเพื่อปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำมัน E85 เเละยังไม่มีผลิตในประเทศ เป็นการชั่วคราว 3 ปี



    ประการที่สอง ลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน E85 จากเดิม 3.6850 บาท/ลิตร เหลือ 2.5795 บาท/ลิตร



    ติดต่อขอข้อมูล ติชม และเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่ศูนย์บริการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน 0-2537-8161 หรือที่ head@boi.go.th



    http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000073222

    Logged

    Pages: [1] Print

    « previous next »

    Jump
  2. 3
    รูปประจำตัว
    e85 30/08/2008 15:20
    3. Flex Fuel Vehicle (FFV) คือ รถยนต์ที่ผลิตขึ้นมาให้สามารถใช้ได้กับน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์ทุกสัดส่วน กล่าวคือ นอกจากจะเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เป็นเชื้อเพลิงแล้ว ยังสามารถเติมน้ำมันเบนซินทั่วไป น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10, E20 หรือจะผสมกันเองเป็นสัดส่วนใดๆ ก็ได้อีกด้วย โดยอุปกรณ์ที่ออกแบบมาพิเศษจะเป็นตัวอ่านและรับรู้ปริมาณเอทานอลที่มีอยู่ในถังน้ำมัน และ ปรับอัตราการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหมาะสมเพื่อให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์

    ข้อดีของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85

    เนื่องจากเอทานอลมีค่าออกเทนที่สูงมากกว่า 100 ดังนั้น น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 จึงมีค่าออกเทนที่สูงกว่าน้ำมันเบนซินทั่วไป รวมถึง น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 และ E20 ด้วย และจากการที่เอทานอลมีออกซิเจนเป็นองค์ประกอบจึงทำให้การเผาไหม้มีความสมบูรณ์ ให้ประสิทธิภาพที่ดีเพิ่มแรงบิดและกำลัง จึงอาจสามารถชดเชยการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้เล็กน้อย

    รัฐบาลมีแนวคิดในการกำหนดโครงสร้างราคาของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ให้มีราคาต่ำกว่าน้ำมัน

    เบนซิน เนื่องจากคุณสมบัติของเอทานอลที่มีค่าความร้อนต่ำกว่าน้ำมันเบนซิน จึงมีผลให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์

    E85 จะมีความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าน้ำมันเบนซินทั่วไป ประมาณ 30 -35%

    น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เป็นเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษไอเสีย ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน จะลดลงมากเมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเบนซิน นอกจากนั้น วัตถุดิบที่นำมาผลิตเอทานอลในประเทศไทยส่วนใหญ่แล้วมาจากอ้อย หากพิจารณาถึงวัฏจักรของการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว จะพบว่าตั้งแต่กระบวนการปลูกอ้อย ผลิตน้ำตาล ผลิตเอทานอล ผสมเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 และนำไปใช้ในรถยนต์ ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปลดปล่อยออกมาตลอดทั้งกระบวนการ จะน้อยกว่าน้ำมันเบนซินที่ผลิตจากปิโตรเลียมเมื่อเทียบที่ปริมาณของน้ำมันเบนซินที่เท่ากัน

    ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม การใช้เอทานอลซึ่งผลิตมาจากพืชผลทางการเกษตร

    ได้แก่ อ้อย และ มันสำปะหลัง มาใช้เป็นเชื้อเพลิงซึ่งมีปริมาณความต้องการที่สูงและแน่นอน ก็จะช่วยส่ง

    เสริมและประกันรายได้ให้กับเกษตรกร ในการลงทุนปลูกพืชพลังงาน เพื่อใช้ทดแทนการนำเข้าน้ำมันดิบจาก

    ต่างประเทศ การใช้ E 85 จำนวน 1 ลิตร จะมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยลดการใช้น้ำมันเบนซินลงได้ประมาณ

    0.85 ลิตร จึงสามารถกล่าวได้ว่า การสนับสนุนการใช้เอทานอลให้มากขึ้นในประเทศ นอกจากจะเป็นการ

    พัฒนาความเป็นอยู่ของเกษตรกรที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขั้นแล้ว และยังเป็น

    การพัฒนาการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 สูตร ปตท.

    เป็นที่ทราบกันดีว่าเอทานอลเป็นเชื้อเพลิงทดแทนที่สะอาด มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ และผลิตจากพืชผลทางการเกษตร ซึ่งการปนเปื้อนใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการผลิตและการขนส่ง ประกอบกับคุณสมบัติของ เอทานอลเอง อาจมีผลกระทบทำให้เกิดสิ่งสกปรกและเกิดการกัดกร่อนขึ้นในระบบเชื้อเพลิง

    สถาบันวิจัยเทคโนโลยี ปตท. ตระหนักถึงคุณสมบัติเหล่านี้ดี จึงได้ทำงานวิจัยเพื่อคัดเลือก

    component และสารเติมแต่งที่เหมาะสมสำหรับผสมกับเอทานอล ในสัดส่วนที่มากกว่า 75% เพื่อให้ได้สูตร

    น้ำมัน PTT Gasohol E85 Plus ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับใช้กับรถยนต์ประเภท FFV แล้วให้ ประสิทธิภาพที่ดี ลดการเกิดสิ่งสกปรกที่หัวฉีดและวาวล์ไอดี ไม่เกิดการกัดกร่อนชิ้นส่วนต่างๆ ของระบบ

    เชื้อเพลิงและเครื่องยนต์ อันเนื่องมาจากน้ำมันเบนซินที่มีเอทานอลเป็นส่วนผสมหลัก จึงมั่นใจได้เมื่อใช้น้ำมัน

    แก๊สโซฮอล์ E85 ของ ปตท.

    แนวโน้มการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ในประเทศไทย

    ในระยะยาวน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 จะกลายเป็นเชื้อเพลิงอีกหนึ่งทางเลือกของพลังงานทดแทนในประเทศไทยที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย จากประสบการณ์การส่งเสริมน้ำมันแก๊สโซออล์ E85 ของต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จในการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 นั้น มีการกำหนดนโยบายลดภาษีน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ E85 รวมทั้งกำหนดโครงสร้างภาษีรถยนต์ที่ส่งเสริมให้เกิดการผลิตและการจำหน่ายรถยนต์ FFV เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85

    สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันได้ดำเนินการผลิตและจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 รองรับรถยนต์เบนซินส่วนใหญ่ของประเทศที่ใช้กันทั่วไป และน้ำมันแก๊สโซออล์ E20 รองรับรถยนต์รุ่นใหม่ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2551 (2008) แล้ว น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งบริษัทน้ำมันและบริษัทรถยนต์จะได้ร่วมมือกันในการพัฒนาและส่งเสริม โดยมีจุดมุ่งหมายให้มีการใช้เอทานอลทดแทนน้ำมันให้มากที่สุดและเป็นไปในทิศทางที่ก่อให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยผู้ประกอบการบริษัทรถยนต์จากยุโรป คือ วอลโว่ และ จีเอ็ม มีความพร้อมในการนำเข้ารถยนต์ E85 และบริษัทรถยนต์หลายแห่งทั้งค่ายยุโรปและญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องการผลิตรถยนต์ FFV ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ภายใน 1 - 2 ปี นับจากนี้

    ในกรณีที่ประเทศไทยมีการใช้น้ำมันในกลุ่มเบนซินเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ซึ่งเป็นน้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอลอยู่ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันแก๊สโซออล์ 95 และ 91 ซึ่งมีเอทานอลผสมอยู่ 10% น้ำมันแก๊สโซฮอล์E20 และ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ล้วนแต่มีผลทำให้ประเทศไทยสามารถประหยัดเงินการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศได้ รวมทั้งช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น

    ข้อมูลเพิ่มเติมของรถยนต์ FFV ในบราซิล

    สำหรับการใช้รถยนต์ FFV ในประเทศบราซิลจะแตกต่างจากการใช้ E85 ในสวีเดนและบราซิลในด้านอัตราส่วนผสมของเอทานอลที่สามารถผสมได้ตั้งแต่ เอทานอล 100% ไปจนถึงไม่มีเอทานอลเป็นส่วนผสม รถยนต์ที่ใช้จะต้องมี Sub tank ขนาดประมาณ 1 ลิตร สำหรับใช้ในการ start เครื่องยนต์ หลังจากที่เครื่องยนต์ติดก็จะกลับไปใช้เชื้อเพลิงในถังปกติ
  3. 2
    รูปประจำตัว
    น้ำมัน e85 30/08/2008 15:15
    ตามข้อกำหนดคุณภาพของกรมธุรกิจพลังงาน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ของประเทศไทย คือ น้ำมันเบนซินที่มีส่วนผสมของเอทานอลชนิดความบริสุทธิ์ 99.5% อยู่ระหว่างร้อยละ 75 - 85 กับน้ำมันเบนซินพื้นฐาน สามารถใช้เติมในรถยนต์ที่ผลิตให้สามารถรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่มีส่วนผสมของเอทานอลในสัดส่วนที่สูงได้ หรือเรียกว่า รถยนต์ E85 หรือ Flex Fuel Vehicle

    น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เป็นเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environmentally Friendly Fuel) ลดมลพิษที่ปล่อยจากไอเสีย ไดแก่ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกตัวหนึ่งที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดภาวะโลกร้อน โดยจะลดลงมากเมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเบนซิน นอกจากนั้น น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ยังช่วยลดการพึ่งพานำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ เนื่องจากการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ของผู้บริโภค 1 ลิตร จะมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยลดการใช้น้ำมันเบนซินลงได้ถึง 0.85 ลิตร

    ในปัจจุบันน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 มีใช้อย่างแพร่หลายในประเทศสวีเดน และในบางรัฐของ

    สหรัฐอเมริกา แถบมินนิโซต้า มีการกำหนดอัตราการผสมของเอทานอลแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้

    ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศในแต่ละฤดูกาลของประเทศนั้นๆ เหตุผลหลักที่สำคัญและเหมือนกันทุกประเทศของการส่งเสริมการใช้เอทานอลผสมในน้ำมันเบนซิน คือ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ลดการพึ่งพาน้ำมันปิโตรเลียม ลดภาวะโลกร้อนจากการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศ และเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ

    ประเภทของรถยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้

    รถยนต์ที่จะใช้กับน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีเอทานอลเป็นส่วนผสมหลัก ต้องออกแบบพิเศษ ได้แก่

    1. วัสดุ ชิ้นส่วนต่างๆ ในระบบเชื้อเพลิงทั้งที่เป็น โลหะ ยาง พลาสติก ต้องทนต่อการกัดกร่อนได้ดี เช่น ถังน้ำมัน ปั๊ม & ท่อจ่ายน้ำมัน หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ฯลฯ

    2. มีการปรับปรุงระบบต่างๆ ของเครื่องยนต์และอุปกรณ์ควบคุมการฉีดเชื้อเพลิง ตามคุณ สมบัติของเชื้อเพลิงเมื่อมีเอทานอลเป็นส่วนผสมในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน ตั้งแต่เชื้อเพลิงที่ไม่มีเอทานอลเป็นส่วนผสม จนถึงมีเอทานอลสูงสุดถึง 85% ทั้งนี้เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างสมบูรณ์เต็มประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการใช้น้ำมันเบนซินทั่วไป
  4. 1
    รูปประจำตัว
    paiboon paiboon_k@yahoo.com 19/08/2008 10:30
    ขอที่อยู่ เบอร์โทรที่ติดต่อได้ รายละเอียดของอุปกรณ์เพิ่มเติม

แสดงความคิดเห็น

*

*

view

ปฎิทิน

« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 

บริการ

หน้าแรก
บทความ
เว็บบอร์ด
รวมรูปภาพ

สถิติ

เปิดเว็บ05/07/2008
อัพเดท03/05/2024
ผู้เข้าชม111,414
เปิดเพจ143,501
สินค้าทั้งหมด1

 หน้าแรก

 บทความ

 เว็บบอร์ด

 รวมรูปภาพ

view